Monday, December 30, 2013

ทริปขี่รถเล่นไปถ่ายวิวที่สวนผึ้ง

เรื่องมีอยู่ว่า ไปเจอรูปถ่ายของไบค์เกอร์คนหนึ่งนามว่า Sukie ใช่ เป็นอตีดนักร้อง ค่ายเบเกอร์รี่  รูปของเขาได้ดึงความสนใจไปทั้งหมดสิ้น  แบบว่า" เฮ้ย สวยนะเนี่ย"   อยากขี่รถเล่น เห็นว่าไม่ไกล จึงได้ถามพิกัด  แต่เจ้าตัวไม่ทราบว่า อยู่ตรงไหน ในสวนผึ้งได้แต่บอกทางอย่างคร่าว ๆ   ปิ่นก็ต้องไปหาเอาเองข้างหน้าว่า วิวนี้อยู่ตรงไหนกันแน่ ? 



ไอ้เราก็ไม่เคยไปสวนผึ้งมานานมาก  5 ปีได้  แต่ครั้งล่าสุด ขับรถยนต์ไปร่วมประชุมสัมมนา ตรงใกล้ ๆ ทางขึ้นเขากระโจม 

คนมันอยากไปนี่น่า   จึงหาวันว่างทันที อย่างไม่รีรอ โอกาสมีมาไม่บ่อยนัก ในหน้าหนาวอันแสนสั้น ที่เมืองไทย  ตั้งใจว่า ล้อหมุนหกโมงเช้า จะได้มีเวลาถ่ายรูประหว่างเยอะ ๆ  แต่เนื่องด้วยการงานรัดตัวจึงพักผ่อนน้อย  ตื่นสาย!!!  ตื่น เจ็ดโมงครึ่งกว่า ๆ กว่าจะเสร็จ ออกจากที่พักก็เกือบเก้าโมงเช้า ท้องว่างมาก 

หิวก็ต้องจัดอาหารเช้าด้วยการยัดข้าวหมูทอดลงไปในท้องเพื่อจะได้มีแรงขี่รถยิงยาวรวดเดียวไปสวนผึ้ง 

นี่คือแผนที่คร่าว ๆ  จริงๆ  เดิมทีก่อนเดินทางไปน่ะ   มันก็ลากผิดนะ  แต่ปิ่นไม่อยากให้ผู้อ่านเข้าใจผิด จึงลากแผนที่ให้ใหม่เผื่อสนใจไปขี่รถเล่นได้ ไม่หวงข้อมูลน่า แบ่งปันกัน 



ขี่เส้นพระราม 2  ไม่เคยขี่ยาว ๆ เส้นนี้มาก่อน จึงมีงง ๆ บ้าง

และแล้วเกิดอยากไปเก็บดอกไม้ระหว่างทาง  อากาศเย็นก็งี้แหละ  ไม่รู้จะแวะที่ไหน  และอยากกดตู้เงินสดออกมาใช้ด้วย จึงแวะเข้าไปจอด ใน Porto Chino  ไม่เคยมาก่อน  เจอ รปภ. โบกมือโบกไม้ ชี้ไปไหนไม่รู้  

ปิ่นก็งงสิ  ว่า จะให้ไปจอดที่ไหน สุดท้าย วิ่งมั่วมาก  ไปจอดหน้า MK ซะเลย เห็นมันโล่งดี แล้ววิ่งแจ้น ไปทำธุระ     




แล้วขี่ยิงยาว   เร็ว ช้า บ้าง แล้วแต่สภาพจราจร แต่ปริมาณรถเยอะจริง ๆ  เลี้ยวขวาเข้าจังหวัดราชบุรี เห็นป้ายเลี้ยวเข้า"สวนผึ้ง"  ทางหลวงหมายเลข 3206 เป็นเส้นเก่ามาก ถนนแย่มาก    แต่ปิ่นเลี้ยวผิด เพราะสังเกตว่า รถบรรทุกทำไมเยอะมากขนาดนี้ !!!! 

เปิด GPS ดู อ้อ..ตรูเข้าผิดนี่หว่า  อ่ะ อ่ะ  ถอย ถอย   ไปเข้าเส้น  3208  

ขี่ไปเรื่อย ๆ กินลม  ข้างทางเต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านของชำ รีสอร์ทเล็ก สลับกันไป  ไม่ได้มานานมาก จำแทบไม่ได้เลย เปลี่ยนไปเยอะมาก  ไม่ค่อยอยากแวะถ่ายรูป เพราะไม่ทราบจะถ่ายรูปอะไรดี ?  ข้างทางเต็มไปด้วยโฆษณานานาชนิด  แต่มากที่สุดคงจะเป็นรูป "แกะ"   ไม่ค่อยชอบ อยากได้ธรรมชาติมากกว่า   แวะเข้ามาดูเฉย ๆ ว่า มีอะไร ?  ก็ไม่ค่อยมีอะไรนะ  เฉย ๆ  ถ่ายมาฝากแชะเดียว 



จะเที่ยงแล้ว หิวมาก   แวะเข้าจอดร้านนี้ซะเลย  แบบว่า มึน ๆ  เห็นว่า น่าจะโอเคนะ  จึงเข้าไปสั่งอาหาร จานเดี่ยว "ข้าวผัดกุ้ง"  50 บาท  ปริมาณเยอะเลยล่ะ  แต่ปิ่นทานไม่หมด เพราะเหนื่อย และ  อยากจะนอนต่อ   


และแล้วปิ่นได้สอบถามเจ้าของร้านอาหาร ด้วยการยื่นรูปถ่าย (รูปแรกของคุณSukie) ในมือถือให้เขาดู ถามต่อว่า  รู้จักวิว นี้ไหม ? ว่า อยู่ตรงไหน ?  เจ้าของร้านไม่แน่ใจ เขาบอกว่า แถวนี้ มีวิวคล้าย ๆ เยอะมาก  เขาก็จึงไปหยิบแผนที่ที่แจกฟรี  มาให้  ชี้ไปยังเส้นทางหนึ่ง ๆ ที่เขียนว่า "ทางหลวงหมายเลข 4020"  

เขาบอกว่า เส้นทางนี้เป็นเส้นเลียบภูเขา สวยมาก  ถนนทำใหม่หมด  เขาก็แนะนำ เส้นทางอื่น ๆ ที่ไปทางเขากระโจม  เห็นไหม ?  ปากเราช่วยได้  GPS ที่พกมาน่ะ เป็นตัวช่วยธรรมดาไป  ปิ่นเอา GPS Garmin ติดรถมาด้วย ไว้ใช้กลับบ้านอย่างเดียวเท่านั้น 

พอทานข้าวเสร็จ  เขาได้แนะนำว่า "ให้ขี่ตรงไปสักหนึ่งกิโลเมตร จะเห็นสวนสุขภาพ สนามเด็กเล่นอยู่ขวามือ ให้เลี้ยวขวาไปเลย วิ่งตรงยาว ๆ  ขี่ปลอดภัยนะคะ "   น่ารักมาก  เขาเป็นคนกรุงเทพ ฯ ที่มาลงทุนแถบนี้นั่นเอง  บริการดีมาก  ชอบนะ  เสียดายไม่ได้ชิมอาหารอื่น ๆ  เพราะมาคนเดียว  เหงาเนอะ  อยากให้คนรู้ใจมาด้วยกัน


ออกจากร้านอาหารก็เลี้ยวขวาตามคำแนะนำเขา  ได้เจอวิวสวยมาก  เล่นโค้งเบา ๆ  เอาพอให้ฟิน (ไม่เท่าทางเหนือนะ อย่าเพิ่งไปเทียบกันน่า..เพราะว่ากันตามภูมิศาสตร์ ที่นี่ภูเขาเตี้ยกว่ามากจึงได้อารมณ์ไปคนละแบบน่า) 


เข้าโค้งซ้าย ขวา ได้ข้ามแม่น้ำ คลองธารเล็ก ๆ  ไหลเอื่อย ๆ  จากฝั่งตะวันตกสุดของไทย  อากาศเย็นดีมาก  ไม่ค่อยมีรถสวนทาง   นี่แหละ ข้อดีที่มาขี่รถในวันธรรมดา  





ขี่ไปเรื่อย ๆ จนหมดเส้นทางนี้ ไปโผล่ สามแยก ที่มีป้ายเลี้ยวขวา ไป "ด่านมะขามเตี้ย"   ก็เลี้ยวขวาไป  เพื่อมุ่งตรงไปยังกาจญจนบุรี   (เป็นทางเชื่อมต่อกันอยู่แล้ว แต่ไม่แนะนำให้ใช้เส้นทางนี้ ในตอนกลางคืน เพราะเป็นเส้นทางชนบทมาก เปลี่ยวมาก) 

แปลกใจมากที่ยังมีรีสอร์ทยังอตุส่าห์ มาลงทุนซะไกลเชียว  จากใจกลางอำเภอสวนผึ้ง   

เห็นฟารม์แกะ กำลังน่ารักได้ที่ แวะจอดรถ ถ่ายรูปลง IG  อวดเพื่อนหน่อย  บรรดาแกะทั้งหลายกำลังกินหญ้าอย่างขะมักเขม้น  ได้เดินไปถามมันแล้วว่า "หญ้าอร่อยมั้ย ?"  มันก็ทำหน้าไม่สนใจเลย  เออ  ๆ  เชิญตามสบาย ๆ     




เจอแกะทำหน้ากวนตีนใส่ ก็เป็นต้องได้เวลาขี่รถต่อไป ขี่ไปเรื่อย ๆ เจออุปสรรคหลายรูปแบบ โค้งหักศอก โค้งหลอก  โค้ง V shape อีก 3 ที่  (อันนี้ เป็นโค้งขึ้นเนินชิน ตัดเป็น ตัว V )  ไอ้เราก็ขี่มาเรื่อย ๆ  ลืมตบเกียร์ ฮ่าาาา..  สนุกดี  วิวก็สวย     ส่วนตัวขี่ไม่ค่อยเร็วนัก   

อ้อ..ระหว่างทาง มีน้ำพุกลางถนนด้วยล่ะ ไอ้เราก็ขี่ขึ้นเนิน มองไม่เห็นถนน แต่เห็นน้ำมันพุ่ง    ร้องอุทานดัง ๆ ในหมวกกันน็อค "เฮ้ย มีน้ำพุด้วยเหรอ? "  ใช่จริง ๆด้วย   ท่อน้ำมันแตก กลางถนนเลยล่ะ มาจากไหนไม่ทราบ  เห็นแล้ว ได้แต่ขำ  แต่ก็อันตรายพอสมควร ถ้ามาเร็ว ๆ  โปรดใช้ความระมัดระวังนะคะ  เสียดายไม่ได้ถ่ายรุปมา เพราะกำลังเพลิดเพลินกับขี่รถมากกก   มันกำลังบิ้วอารมณ์ได้ที่อยู่แน่ะ 


ต่อมาเจอเป้าหมายที่ปิ่นตามหาจนได้  เย้ !!      มันอยู่ตรงสามแยกด่านตรวจ บ้านตะเคียนงาม  ทำถนนใหม่จริง แต่.......ยาวแค่  1.4 กิโลเมตรเอ๊ง !!!  กริ๊ดดดด   เอาภาษีประชาชนหายไปไหนหมด ??? ทำไมทำถนนใหม่สั้นแค่เนี้ย !!    ไอ้ที่ขี่มากว่า  50 กิโลเมตร จากสวนผึ้ง  ถนนหลุมพระจันทร์ทั้งน๊านนน มาราดยางแค่ตรงเนี้ย.. แหม่ !  แถมยังมีหญ้า ดงหญ้ารุงรังไปหมด    



เอาเถอะ เอาเถอะ  ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก เพราะเป็นทริปที่ขี่รถอย่างสนุกสนาน ผ่อนคลาย จากการงาน และ เหตุการณ์บ้านเมืองวุ่นว่าย ขอมาปลีกวิเวกกับธรรมชาติไรบ้าง 


ที่นี่ วิวสวยมากเลยนะ  สามารถถ่ายรูปรถ คน  (เสียดายมาคนเดียว ถ่ายตัวเองไม่ได้มุมง่ะ)  อีกอย่าง ปิ่นมาสายไปหน่อย   ดันตื่นสาย จึงถ่ายได้ไม่เยอะมาก เพราะต้องรีบกลับกรุงเทพก่อนฟ้ามืด  

ไว้มาใหม่ล่ะน่าา เนอะ 




แล้วขี่ต่อไปยังอำเภอด่านมะขามเตี้ย  แวะจอดพักหน้าโรงเรียนบ้านโป่งโก  เพื่อทานขนมไม่ให้หิวเกินไป พร้อม ๆ เติมพลังงานให้พร้อม !   โรงเรียนในแถบชนบทเนี่ย น่าเรียนมากเลยนะ ขอบอก  ปิ่นชอบมาก มันไม่วุ่นว่ายดีนะ 



ต่อมาเกิดปวดท้อง อยากเก็บดอกไม้อีกแล้ว  ไม่กล้าเข้าโรงเรียน  อายเด็กเขาน่ะ  จึงขี่ต่อไป เจอวัดแห่งหนึ่ง รีบเลี้ยวซ้ายทันที   ปล่อยทุกข์ เฮ้อ... แต่ก็นะ ไม่พ้นจากสายตาชาวบ้านนับร้อยคน แถว ๆ นั้น ทำไงได้ล่ะ  TT__TT   แต่โบสถ์สวยมากเลยนะ  วัดแห่งนี้มีชื่อว่า "วัดท่าพุราษฎร์บำรุง"    อยู่ตรงหัวโค้งหักศอก 90 องศา เลยล่ะ 



เสร็จแล้วก็ขี่ยิงยาวไปเลย  เปิด GPS ให้มันนำทางกลับบ้าน   มัวแต่โอเอ้เลย สี่โมงเย็นแล้ว   ต้องรีบบึ่งแล้วล่ะ    


ระหว่างทาง  เจองูตัวเบ้อเริ่มกำลังคลานข้ามถนน แต่ไม่พ้นจากถนนเลย  คลานกระดิ๊บ ๆ    ปิ่นหลบไม่ทัน  ได้เหยียบมันไปเรียบร้อย  มันคงร้อง "แอ๊ก !!"  เป็นแน่   ขอโทษนะ ไม่เห็นจริง ๆ    T_T


และแล้วแวะเข้าปั้ม   ที่ บ้านโป่ง จ.ราชบุรี  ขอบอกว่า ระหว่างทางเนี่ย หนาวมาก อากาศเย็น ปิ่นใส่เสื้อแจ็คเกตมาจริงแต่ไม่ได้ใส่เสื้อซับในมา  ขี่ไป ร้อง อูย..เย็น     แต่ก็อากาศดีนะ  



แวะทานขนมลงท้องอีกครั้ง  เพื่อยิงยาวกลับบ้าน ไม่หยุดล่ะ  เข้ากรุงเทพ แต่...ตัดสินใจผิดพลาดอีกแล้ว คือ ไม่ได้เลี้ยวเข้าจรัญสนิทวงศ์ หรือ ถนนเพชรเกษม  เพราะไม่คุ้นเคย  ดันทะลึ่งขี่ตรงไปยังสะพานพระปิ่นเกล้า ลืมไปว่า เขามีม๊อบ  แน่นอนว่า หลงเข้าไปเต็ม ๆ เลย    

ไปพักเบรคที่ป้อมพระสุเมรุ  ก็ยังลืมได้อีกว่า "เอ็งขี่ผ่านใจกลางเมืองไม่ได้นะ  เขามีม๊อบอยู่"    ปิ่นไม่ได้คิดอะไร ในหัวมีแต่เรื่อง "หิว  อยากกลับบ้าน  หาอะไรกินลงท้องดีกว่า "  จึงไม่ได้วางแผนเส้นทาง  ผลคือ..ฝ่าดงม๊อบ   ไปเจอแก๊สน้ำตา ที่ถนนนครสวรรค์   แสบคอมากก   TT__TT   กลับรถทันที  ข้ามไปฝั่งธน ฯ  เพื่อขี่อ้อมกลับบ้าน   




จบทริปอย่างปลอดภัย  วิ่งไปทั้งหมด    450 กิโลเมตร  น้ำมันเต็มถัง  E20  300 กว่าบาท  และเติม 91  100 บาท  วันเดียวคุ้มมาก ที่ได้อะไรมาเยอะกลับมาด้วย   และ มั่วได้ใจมากก   อิ อิ   ขอขอบคุณที่ชมรีวิวค่ะ  ไม่ได้รีวิวมานานมาก ๆ   รูปที่ถ่ายมานั้น  ถ่ายด้วย smartphone ทุกรูป  ปกติตั้งใจถ่ายมากเลยนะ แต่ เวลามีน้อย จึงถ่ายได้ไม่เยอะมากนัก  

 "It felt good! It felt like everything else just disappears. No past and no future. No problems. Just the moment"   


แถม คลิปวีดีโอเล็กน้อย   เพลง Lose Yourself  เวอร์ชั่น Gospel   ใช่ค่ะ  เป็นเพลงของ Eminem  ได้สร้างแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิต   โอกาสดี ๆ มีมาไม่บ่อย จงใช้ให้เต็มที่เถอะ  จะได้ไม่เสียดายในภายหลัง    



Enjoy your ride! 

Wednesday, September 18, 2013

ผ้าคลุมรถมอเตอร์ไซค์ สำคัญไฉน?

"ผ้าคลุมรถมอเตอร์ไซค์"   อาจจะเป็นหัวข้อที่สร้างความแปลกใจให้กับผู้อ่านเป็นได้ เพราะไม่เคยเห็นมีคนเขียนมาก่อนแน่ ๆ  นอกจากพบแต่พวกโฆษณาว่า ผ้าของร้านเราดีที่สุด ทนแดด ทนฝน ไม่ขาดแหว่ง   ร้านโน้นโฆษณาว่า ผ้าของเราทำด้วยผ้าที่คัดเลือกมาอย่างดี บลา บลา บลา




ความจริง "มันไม่ได้สำคัญอะไรมากมายนักหรอกน่ะ"  เพียงแต่ว่า มีความทรงจำน่าประทับใจจนถึงทุกวันนี้ มันผุดขึ้นมาในหัว ก็เลยอยากเขียนเล่าให้อ่านกัน

วันหนึ่ง  เราได้ซื้อรถมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่ราคาหลักแสนบาทมาจอดที่อพาร์ทเมนต์  หรือ คอนโด  มันไม่มีที่จอดส่วนตัว ไม่มีหลังคา และยังไม่มีโอกาสกลับไปจอดที่บ้าน   ทนมองรถตัวเอง ต้องมาตากฝน ตากแดด  มาเกินสัปดาห์ ไม่ไหวแล้ว   ที่จริง ก่อนหน้านี้ เคยมีที่จอดหลบฝน หลบแดด แต่โดนพี่เขาไล่ออกมาด้วยเหตุผลไม่ค่อยน่าฟังนัก   เรามันซนน่ะ  หาเรื่องไปทั่ว จนพี่เขาต้องสั่งสอนให้รู้จักสำนึกซะบ้าง  ก็เลยเป็นแบบนี้ในเวลาต่อมา

รถกับเจ้าของรถ จึงต้องมาระเห็จ มานอนกลางแดด   จึงต้องหาข้อมูลซื้อผ้าคลุมรถอย่างจริงจังซะหน่อย ก่อน โดนสนิมกินรถไปทั้งคัน

มานั่งเปิดอินเตอร์เน็ท ดูตัวเลือกต่าง ๆ  บางเจ้า 1,500 บาท  บางเจ้า 900 บาท  แต่ละเจ้า ราคาไม่เหมือนกันเลย   โฆษณาอวยสินค้าตัวเองกันหมด    แต่เนื่องด้วยตอนนั้นเราตกงานก็เลยต้องประหยัดเงิน (เรื่องจริง ไม่อายน่ะ)  แต่มันก็เป็นการตัดสินใจที่งี่เง่ามากนะ ที่เจียดเงินมาลงกับรถมอเตอร์ไซค์น่ะ   จนโดนพี่หาว่า "บ้าเปล่า? เอาเงินค่าข้าวกินไปซื้อผ้าคลุมรถเนี่ยนะ ? "   เออ  เขาว่า เราบ้า ก็ช่างเขา ก็บ้าก็บ้าวะ

ก็มานั่ง คิด ๆ มองรถตัวเองไปด้วย  เอายังไงดี ? กับ ผ้าคลุมรถ  และ อุปกรณ์อื่น ๆ ที่จำเป็นอีกมากมาย และโชคดี มีจังหวะหนึ่ง เงินเข้ามาพอดีพอให้กินได้ทั้งเดือน ก็เลยเจียดเงินไปซื้อผ้าคลุมรถได้แล้ว แต่ต้องงบไม่เกิน 1000 บาท

จึงไปปรึกษาพี่ ๆ  2 คนที่มีประสบการณ์เลือกซื้อผ้าคลุมรถมอเตอร์ไซค์

พี่คนแรก เคยสั่งซื้อผ้าคลุมรถที่เป็นผ้าไฮโซร่อน อะไรทำนองนั้น  ราคา 1500 บาท ขึ้นไป  จากเจ้าหนึ่ง แต่มันแพงเกินงบน่ะ  พี่เขาบอกว่า ตอนรับมาน่ะ  หนักมาก   เขาบอกว่า ทนดี ไม่ขาดง่ายด้วย

พี่เขาแนะนำว่า ควรเลือกผ้าที่พอดีกับขนาดรถ มันจะได้ไม่กระพรือ เวลามีลมพัดแรง รถอาจจะล้มได้

แต่ส่วนตัวปิ่นคิดว่า "ไม่มีผ้าชนิดใดในโลกนี้ ไม่ขาด ถ้าเป็นของมีคมบาดน่ะ"  ยังไงมันก็ขาดได้อยู่ดี

วันต่อมาได้ถามไบค์เำกอร์ที่มากด้วยประสบการณ์

จึงปรึกษาถามเขาว่า เอาผ้าแบบไหนดี ? ไซส์ M หรือ ไซส์ L ดี ? ราคาต่างกันไม่เยอะเท่าไร

เขาบอกว่า "ไม่ต้องซื้อหรอก  เอาผ้าปูที่นอนคลุมก็ได้  ไม่เปลืองเงินดี"  

ในใจเราบอกว่า "จะไปหาผ้าปูที่นอนที่ไหน คลุมรถเล่า ?  ตรูจะนอนบนเตียงเปลือยเรอะ ? แล้วก็อีกอย่าง มันทนแดด ทนฝนไม่ได้หรอก"

เราก็เลยเถียงกลับไปว่า  "ไม่มีผ้าปูที่นอนนะ  แต่มีตังค์ซื้อน่ะ  เอายังไงดี ? " 

เขาจึงแนะนำว่า "เอาผ้าเบอร์ใหญ่ ๆ น่ะ ดี  เวลาคลุมรถจะได้ไม่เสียเวลา ไม่ตึงด้วย  ถ้าเอาพอดีตัวรถน่ะ มันจะลำบากเวลาคลุมรถ"

เราก็พยักหน้าหงึก ๆ แล้วถามต่ออีกว่า "นี่..ที่ที่ปิ่นจอดน่ะ  ลมพัดแรงนะ  มันจะไม่กระพรือเอาเหรอ?"

เขาก็ตอบว่า "แล้วแต่ปิ่น ชอบแบบไหน ก็ซื้อไปเลย แต่อยากให้ซื้อเบอร์ใหญ่ๆ น่ะดี  ซื้อมาแล้วเอาไปออกทริปด้วยนะ"

เราก็ อ้ะ !!   "เอาไปออกทริปด้วยทำไม ?  หนักรถจะตาย เปลืองพื้นที่เก็บ" 

เขาก็เลยเฉลยว่า "เวลาไปออกทริปนะ  ไม่ต้องไปนอนที่ไหนหรอก  นอนใต้รถนั่นแหละ นอนสบายดี ประหยัด  มันใหญ่พอที่คลุมเราได้ทั้งตัว ที่สำคัญ รถไม่หาย อยู่กะเรานั่นแหละ"

ไอ้เราก็ อึ้งกิ่มจี่..กับคำตอบน่าทึ่งมาก   เออ คิดได้ไง ?

จึงถามต่อว่า  "เคยทำจริงเหรอ ?"

เขาก็ตอบด้วยความภูมิใจว่า  "เคยซิ  โดนเพื่อนล้อไปอีกนานเลย"

หัวเราะดังลั่น   ชอบมาก  กับคำตอบที่สนุกสนาน แต่ใช้ได้จริง

เรื่องมีอยู่เท่านี้แหละ  ยังคงเป็นความทรงจำที่ดี  และยังเอาไปเล่าในเพื่อน ๆ  ฟังให้เกิดอารมณ์ขัน หัวเราะได้อีกตลอดไป


สัปดาห์ต่อมา ได้รับผ้าคลุมรถของเจ้าหนึ่ง ผ้าไม่หนัก มีกระเป๋ามาให้ด้วย น่าประทับใจมาก  ที่สำคัญทนฝน ทนแดด ได้  แต่ข้อเสียคือ  "มันพอดีตัวรถไปหน่อย จึงต้องคลุมรถให้เป็น"   และ ถ้าไปโดนของมีคมบาดแหว่งเข้า  มันก็ขาดได้เหมือนกัน

เคยพลาดไปสะบัดผ้า ตรงฝาท่อระบายน้ำ มุมฝาท่อมันค่อนข้างคมอยู่ ไปโดนเข้า ก็เลยขาดนิดหนึ่งซะแล้ว ที่คอนโดเพื่อนสนิท


แล้วแต่จะคุณตัดสินใจเลือกเอง ตามงบประมาณแล้วก็ปัจจัยสภาพแวดล้อมในที่จอดด้วย


จริงๆ  อยากได้แบบนี้น่ะ..ตามรูปข้างล่างนี้  พอทราบราคาแล้ว แทบลมจับ  ต้องสั่งตามเวปต่างประเทศแล้วบวกค่าส่งอีกต่างหาก     อยากจะเอาไปออกทริป แบบนี้ประหยัดค่าที่พักไปได้มากโขเชียวล่ะ



แถมโฆษณา Moto Tent  ไม่ต้องคิดอะไรมากนัก ดูเอาบันเทิงดีกว่า  ดูแล้วสนุก





อยากจะเอาอย่างลุงคนนี้ในรูปนี้บ้าง สบายใจเชียวนะ  นอนนานเท่าไรก็ได้ ไม่เกี่ยง ขอแค่มีน้ำประปา ห้องน้ำ แค่นี้ก็พอแล้ว    แล้วก็มีวิวสวย ๆ  เมื่อตื่นนอน มาชม ทะเลหมอก    อยู่ตรงหน้าเรานี่เอง ทั้งพระอาทิตย์ขึ้น - ลง    กลิ่นธรรมชาติมันหอมนะ




Tuesday, September 17, 2013

MV Agusta รถสัญชาติอิตาเลี่ยน หรือเรียกกันว่า The Art of Motorcycle (เวอร์ชั่นเขียนเล่น ๆ พูดคุยตามประสาคนชอบดูรถ)



คุ้น ๆ ว่า เคยเขียน MV Agusta ไว้นานมากกกกก..  ดันจำได้มาเป๊ะ




แต่จำได้ว่า  MV Agusta  เนี่ยแหละ  ไปทำให้ Honda เกิดมีแรงฮึดสู้  เอารถตัวเองมาแข่งกับ MV Agusta ใน TT ด้วยน่ะ.  จำได้ลาง ๆ ประมาณเนี้ยแหละ  Honda จึงได้แจ้งเกิดโด่งดังในตลาดโลก จากการแข่งขัน TT  น่ะ  นานมากแล้ว

ส่วน MV Agusta   แต่ถ้าใครชอบเครื่องบิน หรือ  รู้จักพี่น้องตระกูลไรท์   คนที่บุกเบิกเครื่องบินน่ะ.. 

โดเมนิโก  เป็นลูกชายคนโตของ  จิโจวานนี อากุสต้า  เป็นนักเทคนิคการบินที่มากความสามารถและมีใจรักการผจญภัย  (เขาคนนี้ สามารถบินได้ หลังพี่น้องตระกูลไรท์ ตามมาอีก 4 ปีให้หลัง)   เมื่อ โจวานนี ผู้เป็นพ่อ เสียชีวิตแล้ว  โดเมนิโก  ก็ได้สืบทอดบริษัทเครื่องบิน  Agusta  หลังสงครามโลกครั้งที่ 2   เขาย้ายโรงงานไปยังเมือง เบลกิล่า   

แล้วเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่  เป็น  Meccanica Verghera  Agusta  กลายเป็น คำย่อ  " MV Agusta"  

คือ จริงๆ  แล้ว เดิมที  เป็นบริษัทผลิตเครื่องบิน  และ  โดเมนิโก  ทำมอเตอร์ไซค์  เป็นงานอดิเรก    

แต่กลับมีเสียงเรียกร้องจากแฟน Agusta  ทั่วโลก ให้ผลิตขาย  เขาจึงจำเป็นต้องวางขายด้วย  แต่ โดเมนิโก ไม่สนใจ ที่จะผลิตเป็นจำนวนมาก  เขาจึงทำขึ้นมาไม่มาก และ ขาย ในราคาแพง 

ดังนั้น Agusta  ถูกใช้เป็นเครื่องวัดฐานะผู้ครอบครองรถประเภทหนึ่ง ไปเลยอ่ะ.. ตั้งแต่เริ่มวางขาย  

แต่ในเมื่อพูดถึงรถมอเตอร์ไซค์อิตาลีนะ   ไม่มีใครไม่พูดถึง MV Agusta    แถมยังประวัติศาสตร์แข่งรถ  GR ในช่วงปี 60  จนถึงช่วงต้นปี 70s  ก็เหมือนประวัติศาสตร์ของ Agusta ด้วย    

ถ้าคุณไปค้นมา..จะพบว่า   มันจะมีประวัติศาสตร์ของ Agusta   หลายบท มาก ๆ   เรียกว่า  คลับคล้าย ประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 2 ว่าได้  แต่เป็น การแข่งรถมอเตอร์ไซค์ ค่อนข้างยาวมาก..


ส่วน Mr. Massimo  Tamburini เป็นนักออกแบบมอเตอร์ไซค์ ชาวอิตาเลี่ยน ที่มีชื่อเสียงมายาวนาน   เคยอ่านนิตยสารมอเตอร์ไซค์ต่างประเทศมาหลายเล่ม ไม่มีเล่มไหนไม่พูดถึงคนนี้    บางเล่มยังลงเรื่องของเขาซ้ำไปหลายสิบรอบด้วยซ้ำ  แต่เติมเรื่องใหม่เข้าไป  เวลามีออกรถรุ่นใหม่ 

เพราะเขาเคยออกแบบรถไว้ ให้ 3 ค่าย  Ducati , MV Agusta , Bimota 






อย่างไรก็ตาม  Ducati 916   ยังหล่ออมตะ 



ไว้มีเวลาว่าง จะเขียนบทความของค่ายอื่นๆ  มาลงเรื่อย ๆ  

Saturday, September 14, 2013

ข้อควรรู้ในการเลือกซื้อมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่

 ข้อควรรู้ในการเลือกมอเตอร์ไซค์ (Big Bike)  จาก นิตยสาร  Popular Mechanics

เป็นเวอร์ชั่นปรับปรุงใหม่ให้มีความทันสมัยขึ้น   ผู้อ่านอาจจะเคยอ่านมาก่อนแล้ว ใช่  ผู้เขียนและเป็นคนนำต้นฉบับแปลมาลงเผยแพร่ครั้งแรก  เมื่อปี 2009 ในเว็บพันทิป นั่นเอง

รอบรู้เกี่ยวกับมอเตอร์ไซค์

ก่อนจะซื้อมอเตอร์ไซค์ ในฝัน มีคำถามสำคัญ ที่คุณควรถามตัวเองก่อน

จะ ว่าไปแล้ว คงไม่มีใครมีความจำเป็นต้องซื้อมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่ ทว่าทุกวันนี้ กลับมีคนจำนวนมากต้องการซื้อมัน คุณเองก็อาจเป็นหนึ่งในนั้น แต่ก่อนจะควักกระเป๋าจ่าย แล้วก้าวขาขึ้นนั่งคร่อมบนเบาะด้วยความรู้สึกเป็นอิสระและสุขใจ คุณต้องตอบคำถามสำคัญต่อไปนี้ให้ได้ก่อน


เราเป็นนักขับที่ช่ำชองหรือไม่ ?

การ ขี่มอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่เป็นเรื่องสนุกเกินบรรยายแต่ก็อาจเป็นอันตรายได้หาก พลาดพลั้ง ดังนั้นก่อนที่คุณจะตัดสินใจซื้อมอเตอร์ไซค์ ไม่ว่า ประเภทใด ให้ประเมินทักษะและความสามารถของตัวเองด้วย ถ้าคุณยังมือใหม่ ก็ต้องเข้าเรียนการขับขี่ ถ้าเคยขี่เป็น แต่ว่างเว้นไปนาน ต้องฝึกทบทวน และถ้าคุณยังไม่มีใบขับขี่ ก็ต้องสอบให้ได้มา เพื่อจะได้ขับมัน อย่างถูกกฎหมาย

**ในประเทศไทย บ้านเราโชคดี มีโรงเรียนฝึกสอนขับขี่มอเตอร์ไซค์ อย่างเป็นทางการ ได้แก่ ค่าย Honda , Yamaha , Ducati และ คลับมอเตอร์ไซค์อิสระ ต่าง ๆ ที่จัดคอร์สขึ้นมาเอง เพิ่งบูมและมีคนให้ความสนใจกับการเรียนหัดขับขี่มอเตอร์ไซค์อย่างถูกต้อง และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ  นับตั้งแต่ปี 2008 เป็นต้นมา




เลือกรถแบบไหนดี ? 

รูปแบบการขับขี่ของคุณจะเป็นตัวกำหนดประเภทของรถที่คุณควรขับ
ในทางกลับกันประเภทของรถที่คุณขี่
มีส่วนอย่างมากในการกำหนดวิถีชีวิตและโลกแห่งมอเตอร์ไซค์ของคุณ
ดังนั้นนอกจากจะเลือกมอเตอร์ไซค์จากเครื่องยนต์กลไก
และ สมรรถนะแล้วควรคำนึงถึงสังคมที่คุณจะขับเข้าไปร่วมวงด้วย ถ้าคุณไม่คิดว่า
ตัวเองเป็นนักบิด หรือมีความบ้าบิ่นในสายเลือด  แต่รู้สึกสบายใจที่ได้ดูคอนเสริต์กลางคืนเวทีของวง Eagle
ก็ควรพิจารณามอเตอร์ไซค์แบบธรรมดา  (Traditional)

ส่วนที่ชื่นชอบ รถแบบสปอร์ต (Sport)  มักนิยมกิจกรรมประเภทเร็วและแรงสุดขีด
 ถ้าคุณต้องการเข้ากลุ่มกับพวก Hip Hop  ก็อาจอยู่ในกลุ่มผู้รักรถแบบ
Sport  เช่นกัน

ส่วนผู้ที่สำราญกับการเดินทางท่องเที่ยว มักเป็นพวกมักจะไม่รีบร้อนยามดื่มด่ำกับวิวข้างทาง
ถ้าคุณหลงใหลการใช้ชีวิตบนรถ ก็ควรพิจารณารถแบบ ทัวร์ริ่ง (Touring)

แต่ถ้าต้องการเพิ่มรสชาติผจญภัยลงในยานพาหนะที่คุณใช้เดินทางไปมาเป็นระยะ
ทางไกล ๆ  ทุกวัน  คุณน่าจะชอบรถแบบ Adventure  หรือมีชื่อเรียกกันว่า "Dual Purpose"  ไม่ก็ Sport Touring 




แบบธรรมดา (Traditional)    หรือ  Nake Bike     หรือ   Street Bike 

เรียก อีกอย่างว่า แบบมาตรฐาน
เป็นรถที่พัฒนามาจากรูปแบบที่มอเตอร์ไซค์ส่วนใหญ่เคยเป็นถังน้ำมัน
และบังโคลน มีรูปทรงเดิม  แฮนด์อยู่ต่ำ และเครื่องยนต์
อยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นได้   ราคา  80,000  to 1,500,000 บาท

**
ได้แก่  Honda CB Series  , Suzuki SV  Series  ,  Kawasaki Z series ,
Aprilia Mana , Aprilia  Tuono Series ,  BMW K Series,  Buell Blast
Series,  Ducati  Monster Series,  Harley Davidson Sportster, Triumph
Speed Triple , Triumph Street Triple , Suzuki Bandit , Yamaha  FZ
series , Moto Guzzi Breva Series,  Suzuki B-king , Yamah  XJ   Series
 อีกมากมาย.. 






แบบลาดตระเวน  (Cruiser) 
หนักและมีความเร็วต่ำมี
เสถียรภาพดี  แรงบิดสูง จุดศูนย์ถ่วงอยู่ต่ำ เบาะมีขนาดมาตรฐาน และอยู่ต่ำ
 เพื่อให้เหมาะกับรูปร่างนักบิดทุกขนาด    ราคา 30,000 to 1,500,000 บาท

**
ได้แก่  Harley Davidson Softail ,  Honda Phantom ,  Yamaha  Dragstar ,
 Suzuki Boulevard  , BMW R1200C ,  Honda shadow  และอีกหลายรุ่น 



แบบทัวร์ริ่ง (Touring) 

เบาะมีขนาดใหญ่  นั่งสบาย  เบาะสำหรับคนซ้อนท้ายก็ใหญ่พอ ๆ กัน
 และมีพื้นที่มากมายสำหรับเก็บของที่จำเป็น สำหรับการใช้ชีวิตบนถนนหลายวัน
 นอกจากนี้ ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวก  เช่น มีเต้าเสียบ  และ
เบาะนั่งที่ปรับอุ่นได้  ราคา 700,000 to 1,500,000 บาท

**ได้แก่  Honda GOLDWING,   Harley-Davidson Electra Glide , BMW K1200LT , Yamaha Royal Star Venture  เป็นต้น




 แบบสปอร์ต  (Sport) 

เบาและทรงพลัง  ตัวถังมีเชื้อสายของรถแข่ง ติดดิกส์เบรก สามที่ (ด้านหน้าสอง  ด้านหลังหนึ่ง)  เวลาขับต้องนั่งเอนไปข้างหน้า ราคา 40,000  to 2,300,000 บาท

**
ได้แก่  Honda CBR Series ,  Yamaha YZF-R Series  , Susuki  GSX ,
Kawasaki ZX Series ,  Ducati Superbike Series , Triumph Daytona  Series
, MV Agusta  F4 Series , Aprilia  RSV Series, BMW HP2  เป็นต้น 


 แบบดูอัล สปอร์ต  (Dual Sport) 

เป็นมอเตอร์ไซค์ที่ถูกออกแบบให้สามารถวิ่งบนทางเรียบ  ทางขุรขระ  (on - off road Bike) หรือใช้ขี่เพื่อผจญภัย หาความสนุกสนาน ใหม่ ๆ  (Adventure)    มีหลายรุ่นให้เลือก  ตั้งแต่ รุ่น Lightweight , Middleweight และ Heavyweight  จะแบ่งตามเกณฑ์น้ำหนัก กำลังเครื่องยนต์  ขนาดมิติของตัวรถ 

ปัจจุบันมีรถหลายค่ายผลิตออกมาให้เลือกขี่มากมาย แต่บ้านเรา  มักจะเลือกรุ่น Heavyweight  มากที่สุด    

A : รุ่น Lightweight 
    Kawasaki  KLX125 ,KLX250 , DTX125 , DTX 250   
    Honda CRF250L , CRF250M   
    สามารถเปลี่ยนยางหนามเป็นยางทางเรียบได้   

B : รุ่น  Middleweight
   KTM 690EXE 
   BMW F650GS
   Husqvarna TR650 Strada
   BMW F800GS
   Triumph Tiger800
   Kawasaki KLR650
   Kawasaki Versys 
   Suzuki V-Strom 650

C : รุ่น Heavyweight    ถังน้ำมันมีความจุมากกว่าเพื่อรองรับระยะทางไกล 
    KTM Adventure 1190
    BMW R1200GS

    Triumph  Tiger Explorer 
    Yamaha Super Tenere 
    Ducati Multistrada 




  




**เกร็ดเพิ่มเติม 

สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเข้าสู่วงการ  Big Bike  นั้น  ไม่เคยขับขี่รถขนาดใหญ่ มากกว่า 250 CC มาก่อน   และมีเงินพร้อม  ขอแนะนำ


A. Kawasaki Motorcycles

1. Kawasaki KLX 250
2. Kawasaki Ninja 250R ,300R
3. Kawasaki DTX250

B. Honda Motorcycles

1. Honda CBR250i
2. Honda CBR500

ตัวเลือกเหล่านี้  เหมาะสมกับ   The Beginner  Biker มาก  ใจเย็น ๆ  ค่อย ๆ เพิ่มพูนทักษะ



ideaต้องจ่ายเท่าไร ? 

การจะซื้อรถมอเตอร์ไซค์สักคัน เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาให้รอบคอบ
กรณีที่เป็นรถใหม่ราคาจะอยู่ระหว่าง 80,000 to 1,500,000 บาท
 ทั้งขึ้นอยู่กับประเภทของรถที่คุณเลือก
ตัวแทนจำหน่ายรถจะช่วยคุณด้วยการเสนอด้านการเงิน (ไฟแนนซ์)
 และหลายแห่งอาจแนะนำรถมือสองด้วย (Grey Market)

idea แน่ใจว่า ต้องการรถใหม่หรือ ? 

สำหรับ นักบิดหลายคน รถมือสองเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
 เพราะนอกจากจะซื้อหาได้ง่ายกว่ารถใหม่แล้ว  ยังเหมาะสำหรับการดัดแปลงด้วย
หลังจากที่ใช้ไปสักพัก คุณอาจรู้สึกว่า  รถที่ซื้อมาขาดอะไรบางอย่าง
 และจะพบความจริงว่า  ไม่ช้าก็เร็ว
มอเตอร์ไซค์คันแรกของคุณจะครูดกับพื้นถนน
 ไม่มีเหตุผลที่มอเตอร์ไซค์จะต้องเป็นรถใหม่ราคาแพง
 ให้ตัวเองมีกินมีใช้สบาย ๆ สักสองสามเดือน
 แล้วคุณจะพร้อมยิ่งขึ้นสำหรับล้อคู่ใหม่

idea รถคันนี้ เหมาะสำหรับเราหรือ ? 

เวลาที่หาซื้อรถ ให้คำนึงลักษณะรูปร่างของคุณด้วย
 ถ้าเท้าทั้งสองข้างไม่สามารถวางราบบนพื้นได้  แสดงว่า
รถคันนั้นสูงไปสำหรับคุณ และถ้านี่เป็นรถคันแรก
หรือคุณไม่เคยขับอะไรที่เร็วมาก ๆ  ก็อย่าแม้แต่มองรถที่มีสมรรรนะสูง ๆ

กล่าวคือ  ถ้าคุณใช้มอเตอร์ไซค์เป็นพาหนะหลักในการเดินทางประจำวัน
 ควรพิจารณารถแบบธรรมดา หรือ แบบมาตรฐาน  ถ้าคุณเคยขับมาหลายปีแล้ว
รถสมัยก่อน กับ สมัยนี้ ไม่ได้แตกต่างกัน  แต่คุณจะรู้สึกดีขึ้น
 อันเป็นผลมาจากระบบสตาร์ทด้วยไฟฟ้า  ระบบฉีดน้ำมัน และดิสก์เบรก
 ถ้าแต่ละวัน คุณต้องเดินทางไกล  ซึ่งตามปกติจะมีคนซ้อนท้ายด้วย
และคุณต้องการรถที่มีสไตล์มากหน่อย  ตัวเลือกที่เหมาะสมตัวต่อไปคือรถแบบ
Cruiser  ถ้าคุณมีแนวโน้มต้องนั่งอยู่บนเบาะหลายชั่วโมง หลายกิโลเมตร
 โดยมีคนซ้อนท้ายด้วย คุณต้องเลือกแบบ Touring  และถ้าต้องการรถแบบ
Touring ที่มีสมรรถนะมากขึ้นเล็กน้อย  ก็รถแบบที่เรียกว่า Sport / Touring
ให้เลือก ถ้าต้องขับบนถนนที่สูง ๆ ต่ำๆ  รถที่เหมาะที่สุดคือ รถแบบ sport
 ถ้าต้องการรถธรรมดา ๆ  ที่สามารถไปได้ทุกที่
 มองหารถที่ใช้ประโยชน์ได้ทั้งสองอย่าง คือ
 รถแบบมาตรฐานที่มีท้องรถยกสูงจากพื้นมากหน่อย และ ยางมีปุ่ม

แล้วต้องมีอะไรอีก ? 
ก่อนจะเริ่มออกรถ

คุณต้องมีหมวกกันน็อค  เสื้อแจ็คเกต ถุงมือ รองเท้าบูท  เสื้อกันฝน และ
กางเกงที่มีการ์ดเข่า สะโพก  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
  อย่าตระหนี่เวลาที่ซื้อของพวกนี้
 เพราะมันจะอยู่ระหว่างคุณกับพื้นถนน เลือกซื้อหมวกที่ได้มาตรฐานความปลอดภัย ด้

**  ซึ่งมีค่าใช้จ่ายอุปกรณ์พวกนี้ ไม่ต่ำกว่า 15,000 บาท

หลังจากที่คุณได้เรียนขับรถมาอย่างดี  และสวมชุดเรียบร้อยแล้ว
 ก็เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับปัญหาที่เกิดขึ้น
แม้จะขับในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย และมีการควบคุมก็ตาม
คุณอาจไม่เคยคิดที่จะขับท่ามกลางสายฝน  แต่ไม่ช้าก็เร็ว  คุณจะต้องได้เจอ
ดังนั้น เช้าวันที่มีฝนตก ให้ไปที่ลานจอดรถว่าง ๆ หรือ
ถนนที่ไม่ค่อยมีรถวิ่ง  เพื่อลองให้เกิดความคุ้นเคยกับสภาพถนนที่เปียก
จะได้รู้ว่า รถมีปฎิกิริยาอย่างไร  เวลาที่เบรก เร่งอัตราเร็ว  และ
เลี้ยวโค้งบนพื้นเปียก  เพราะคุณคงไม่ต้องการเรียนรู้ทักษะเหล่านี้ในสถานการณ์จริงแน่นอน




idea  การซื้อรถใช้แล้ว  

ไม่ว่า คุณจะซื้อมอเตอร์ไซค์ใช้แล้วจากตัวแทนจำหน่าย   หรือจากเจ้าของเดิมโดยตรง  ให้เปรียบเทียบเลขไมล์ที่อ่านได้ กับ
สภาพรถว่า สอดคล้องกันหรือไม่ ?  และขอดูประวัติการบำรุงรักษา   การใช้บริการ เล่มทะเบียนรถ  รวมถึงใบเสร็จรับเงิน

# มองหาสนิมและรอยขีดข่วนบนตัวรถ ถังน้ำมัน และ บังโคลน ตรวจดูที่วางเท้าว่า สึกไปอย่างไร  ถ้าสึกด้านบน แสดงว่า
ผ่านการขับมายาวไกล  ถ้าสึกด้านล่าง แสดงว่า  ผู้ขับเอนตัวมากไปเวลาเข้าโค้ง

# รอยขาดที่เบาะ และสีที่ซีดจาง  เป็นตัวฟ้องว่า รถเคยผ่านชีวิตที่สมบุกสมบัน

# ตรวจดูว่า มีการเปลี่ยนอะไหล่แทนของเก่าที่เสียหายหรือไม่ ?  โดยเฉพาะที่วางเท้า  กระจก แฮนด์  เบรก และ คลัตซ์

# ตรวจดูเครื่องยนต์ว่า มีร่องรอยน้ำมันไหลซึม หรือ เยิ้ม  หรือรั่วออกมาหรือไม่

# โซ่ควรสะอาดและตึง  โซ่ด้านล่างหย่อนได้ประมาณ หนึ่งนิ้ว  เมื่อวัดตรงกึ่งกลางระหว่าง เฟืองทั้งสอง โซ่ที่ขึ้นสนิม
 หรือมีคราบเขรอะ  บ่งบอกว่า ขาดการดูแลเอาใจใส่

# แผ่นจานเบรก ควร เรียบ สะอาด และไม่มีสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการลากเบรก /ร้อนเกินไป ตรวจดูยางด้วย ว่า มีการใช้ผิดวิธีหรือไม่

# รถควรติดสตาร์ทง่าย และอาจปล่อยควัน เล็กน้อย  เมื่อสตาร์ท ตอนเครื่องเย็น  ถ้าสตาร์ทติดยาก หรือ มีควันมาก
โดยเฉพาะควันสีน้ำเงินต้องระวัง


haha  จบแล้ว กับ สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับรถมอเตอร์ไซค์

ถ้าอยากอ่านข้อมูลเพิ่มเติม กับ  Popular Mechanics  ภาคภาษาอังกฤษ  ได้ที่เว็บhttp://media.popularmechanics.com/documents/ridersclub/

และ ต้นฉบับของบทความในภาค ภาษาอังกฤษ ที่เว็บ  http://www.popularmechanics.com/automotive/new_cars/1751147.html


หมายเหตุ  :  ข้อความที่มีเครื่องหมาย *   นั้น  หมายถึง  เราเขียนเพิ่มเติมขึ้นมาเอง







มาชมรายการมอเตอร์ไซค์สนุก ๆ ฮาดี

เผอิญได้ดูคลิป youtube  ที่เป็นรายการ Moto TV  ของฝรั่งเศส เป็นส่วนหนึ่งของนิตยสาร Moto Journal นั่นเอง

อันแรกจะเป็น วินมอเตอร์ไซค์   พิธีกรได้จัดมอเตอร์ไซค์สูตรแข่ง มาให้บริการลูกค้าแถวสนามบิน

ซึ่งวินนี้ มีแต่ Honda Gold Wing  ให้ซ้อนอย่างสบาย  แต่ใครจะมากล้าใช้บริการซ้อนรถ Sport ล่ะ ?

ลองมาชมกัน  ฮามากกก



http://www.youtube.com/watch?v=eMQB7doKzCM


คลิปที่สอง จะเป็นการสอนขี่เข้าโค้งอย่างถูกต้อง  ก็เรียกหัวเราะได้เยอะอยู่   คือ เรา ๆ ก็รู้กันอยู่ว่า  "เห็นป้ายแจ้งเตือนระวังโค้งงูเลื้อย  เป็นไม่ได้ที่ต้องกระดิกหาง แลบลิ้น แฮ่ก ๆ ด้วยความดีใจจัด จริงมั้ย ? "

ไม่น่าเชื่อว่า อาการนี้  เป็นกันทุกคนทั่วโลก 5555555+

เทวดาที่ซ้อนท้ายเขานั้น  เขาเป็นห่วง ไม่อยากให้เกิดอุบัติเหตุตายเร็วเกินไป  ไม่อยากเห็นเขาอยู่บนสวรรค์ จึงจัดแจง สวมบทเป็นครูสอน การเข้าโค้ง ที่ถูกต้อง  มีการล่ามโซ่คออีก  55555+

ลองมาชมกันดีกว่า   กดเลือกซับไตเติ้ล ภาษาอังกฤษ ได้นะ  จะได้เข้าใจง่ายขึ้นหน่อย




http://youtu.be/KrSEmsmj8Bw


ต่อมาเรื่องสุดท้าย  พิธีกรได้รับเชิญไปร่วมงานชุมนุม คนใช้ Honda GoldWing ในประเทศสหรัฐอเมริกา และมีการพาชมพิพิธภัณฑ์   Motorsport  Barber Vintage Museum  ตั้งอยู่ในเมือง Brimingham, รัฐ Alabama

ใหญ่และเดินชมมาก   เป็นที่ทราบกันว่า ในประเทศสหรัฐอเมริกา มีพิพิธภัณฑ์ หลายร้อยแห่ง ให้เดินไปชมและศึกษาหาสิ่่งที่เราไม่รู้มาก่อนมาใส่หัว    อยากไป สมิธโซเนี่ยน ง่ะ   

อ้อ..ระหว่างท่องเที่ยวนั้น  พิธีกรได้พาไปเล่นโค้งอันมีชื่อเสียง  Tail of the Dragon  ที่เมือง Deal Gap  รัฐ North Carolina  มีโค้งอยู่กว่า 318 โค้ง บนระยะทางกว่า 11 ไมล์  (18 กิโลเมตร) 


http://youtu.be/lc6_KYNGrTY


ลองอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์   Motorsport  Barber Vintage Museum   ได้ที่ http://barbermuseum.org/index.php



Best Quote about Life #1

"ธรรมชาติต้องการสอนให้เราอยู่ร่วมกันอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย บางที่สิ่งที่เขาขาดเราอาจะมี ..บางสิ่งที่เขาดีเราอาจด้อย เราเกิดมาเพื่อเติมเต็มกันและกัน" - ว.วชิรเมธี