Monday, December 30, 2013

ทริปขี่รถเล่นไปถ่ายวิวที่สวนผึ้ง

เรื่องมีอยู่ว่า ไปเจอรูปถ่ายของไบค์เกอร์คนหนึ่งนามว่า Sukie ใช่ เป็นอตีดนักร้อง ค่ายเบเกอร์รี่  รูปของเขาได้ดึงความสนใจไปทั้งหมดสิ้น  แบบว่า" เฮ้ย สวยนะเนี่ย"   อยากขี่รถเล่น เห็นว่าไม่ไกล จึงได้ถามพิกัด  แต่เจ้าตัวไม่ทราบว่า อยู่ตรงไหน ในสวนผึ้งได้แต่บอกทางอย่างคร่าว ๆ   ปิ่นก็ต้องไปหาเอาเองข้างหน้าว่า วิวนี้อยู่ตรงไหนกันแน่ ? 



ไอ้เราก็ไม่เคยไปสวนผึ้งมานานมาก  5 ปีได้  แต่ครั้งล่าสุด ขับรถยนต์ไปร่วมประชุมสัมมนา ตรงใกล้ ๆ ทางขึ้นเขากระโจม 

คนมันอยากไปนี่น่า   จึงหาวันว่างทันที อย่างไม่รีรอ โอกาสมีมาไม่บ่อยนัก ในหน้าหนาวอันแสนสั้น ที่เมืองไทย  ตั้งใจว่า ล้อหมุนหกโมงเช้า จะได้มีเวลาถ่ายรูประหว่างเยอะ ๆ  แต่เนื่องด้วยการงานรัดตัวจึงพักผ่อนน้อย  ตื่นสาย!!!  ตื่น เจ็ดโมงครึ่งกว่า ๆ กว่าจะเสร็จ ออกจากที่พักก็เกือบเก้าโมงเช้า ท้องว่างมาก 

หิวก็ต้องจัดอาหารเช้าด้วยการยัดข้าวหมูทอดลงไปในท้องเพื่อจะได้มีแรงขี่รถยิงยาวรวดเดียวไปสวนผึ้ง 

นี่คือแผนที่คร่าว ๆ  จริงๆ  เดิมทีก่อนเดินทางไปน่ะ   มันก็ลากผิดนะ  แต่ปิ่นไม่อยากให้ผู้อ่านเข้าใจผิด จึงลากแผนที่ให้ใหม่เผื่อสนใจไปขี่รถเล่นได้ ไม่หวงข้อมูลน่า แบ่งปันกัน 



ขี่เส้นพระราม 2  ไม่เคยขี่ยาว ๆ เส้นนี้มาก่อน จึงมีงง ๆ บ้าง

และแล้วเกิดอยากไปเก็บดอกไม้ระหว่างทาง  อากาศเย็นก็งี้แหละ  ไม่รู้จะแวะที่ไหน  และอยากกดตู้เงินสดออกมาใช้ด้วย จึงแวะเข้าไปจอด ใน Porto Chino  ไม่เคยมาก่อน  เจอ รปภ. โบกมือโบกไม้ ชี้ไปไหนไม่รู้  

ปิ่นก็งงสิ  ว่า จะให้ไปจอดที่ไหน สุดท้าย วิ่งมั่วมาก  ไปจอดหน้า MK ซะเลย เห็นมันโล่งดี แล้ววิ่งแจ้น ไปทำธุระ     




แล้วขี่ยิงยาว   เร็ว ช้า บ้าง แล้วแต่สภาพจราจร แต่ปริมาณรถเยอะจริง ๆ  เลี้ยวขวาเข้าจังหวัดราชบุรี เห็นป้ายเลี้ยวเข้า"สวนผึ้ง"  ทางหลวงหมายเลข 3206 เป็นเส้นเก่ามาก ถนนแย่มาก    แต่ปิ่นเลี้ยวผิด เพราะสังเกตว่า รถบรรทุกทำไมเยอะมากขนาดนี้ !!!! 

เปิด GPS ดู อ้อ..ตรูเข้าผิดนี่หว่า  อ่ะ อ่ะ  ถอย ถอย   ไปเข้าเส้น  3208  

ขี่ไปเรื่อย ๆ กินลม  ข้างทางเต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านของชำ รีสอร์ทเล็ก สลับกันไป  ไม่ได้มานานมาก จำแทบไม่ได้เลย เปลี่ยนไปเยอะมาก  ไม่ค่อยอยากแวะถ่ายรูป เพราะไม่ทราบจะถ่ายรูปอะไรดี ?  ข้างทางเต็มไปด้วยโฆษณานานาชนิด  แต่มากที่สุดคงจะเป็นรูป "แกะ"   ไม่ค่อยชอบ อยากได้ธรรมชาติมากกว่า   แวะเข้ามาดูเฉย ๆ ว่า มีอะไร ?  ก็ไม่ค่อยมีอะไรนะ  เฉย ๆ  ถ่ายมาฝากแชะเดียว 



จะเที่ยงแล้ว หิวมาก   แวะเข้าจอดร้านนี้ซะเลย  แบบว่า มึน ๆ  เห็นว่า น่าจะโอเคนะ  จึงเข้าไปสั่งอาหาร จานเดี่ยว "ข้าวผัดกุ้ง"  50 บาท  ปริมาณเยอะเลยล่ะ  แต่ปิ่นทานไม่หมด เพราะเหนื่อย และ  อยากจะนอนต่อ   


และแล้วปิ่นได้สอบถามเจ้าของร้านอาหาร ด้วยการยื่นรูปถ่าย (รูปแรกของคุณSukie) ในมือถือให้เขาดู ถามต่อว่า  รู้จักวิว นี้ไหม ? ว่า อยู่ตรงไหน ?  เจ้าของร้านไม่แน่ใจ เขาบอกว่า แถวนี้ มีวิวคล้าย ๆ เยอะมาก  เขาก็จึงไปหยิบแผนที่ที่แจกฟรี  มาให้  ชี้ไปยังเส้นทางหนึ่ง ๆ ที่เขียนว่า "ทางหลวงหมายเลข 4020"  

เขาบอกว่า เส้นทางนี้เป็นเส้นเลียบภูเขา สวยมาก  ถนนทำใหม่หมด  เขาก็แนะนำ เส้นทางอื่น ๆ ที่ไปทางเขากระโจม  เห็นไหม ?  ปากเราช่วยได้  GPS ที่พกมาน่ะ เป็นตัวช่วยธรรมดาไป  ปิ่นเอา GPS Garmin ติดรถมาด้วย ไว้ใช้กลับบ้านอย่างเดียวเท่านั้น 

พอทานข้าวเสร็จ  เขาได้แนะนำว่า "ให้ขี่ตรงไปสักหนึ่งกิโลเมตร จะเห็นสวนสุขภาพ สนามเด็กเล่นอยู่ขวามือ ให้เลี้ยวขวาไปเลย วิ่งตรงยาว ๆ  ขี่ปลอดภัยนะคะ "   น่ารักมาก  เขาเป็นคนกรุงเทพ ฯ ที่มาลงทุนแถบนี้นั่นเอง  บริการดีมาก  ชอบนะ  เสียดายไม่ได้ชิมอาหารอื่น ๆ  เพราะมาคนเดียว  เหงาเนอะ  อยากให้คนรู้ใจมาด้วยกัน


ออกจากร้านอาหารก็เลี้ยวขวาตามคำแนะนำเขา  ได้เจอวิวสวยมาก  เล่นโค้งเบา ๆ  เอาพอให้ฟิน (ไม่เท่าทางเหนือนะ อย่าเพิ่งไปเทียบกันน่า..เพราะว่ากันตามภูมิศาสตร์ ที่นี่ภูเขาเตี้ยกว่ามากจึงได้อารมณ์ไปคนละแบบน่า) 


เข้าโค้งซ้าย ขวา ได้ข้ามแม่น้ำ คลองธารเล็ก ๆ  ไหลเอื่อย ๆ  จากฝั่งตะวันตกสุดของไทย  อากาศเย็นดีมาก  ไม่ค่อยมีรถสวนทาง   นี่แหละ ข้อดีที่มาขี่รถในวันธรรมดา  





ขี่ไปเรื่อย ๆ จนหมดเส้นทางนี้ ไปโผล่ สามแยก ที่มีป้ายเลี้ยวขวา ไป "ด่านมะขามเตี้ย"   ก็เลี้ยวขวาไป  เพื่อมุ่งตรงไปยังกาจญจนบุรี   (เป็นทางเชื่อมต่อกันอยู่แล้ว แต่ไม่แนะนำให้ใช้เส้นทางนี้ ในตอนกลางคืน เพราะเป็นเส้นทางชนบทมาก เปลี่ยวมาก) 

แปลกใจมากที่ยังมีรีสอร์ทยังอตุส่าห์ มาลงทุนซะไกลเชียว  จากใจกลางอำเภอสวนผึ้ง   

เห็นฟารม์แกะ กำลังน่ารักได้ที่ แวะจอดรถ ถ่ายรูปลง IG  อวดเพื่อนหน่อย  บรรดาแกะทั้งหลายกำลังกินหญ้าอย่างขะมักเขม้น  ได้เดินไปถามมันแล้วว่า "หญ้าอร่อยมั้ย ?"  มันก็ทำหน้าไม่สนใจเลย  เออ  ๆ  เชิญตามสบาย ๆ     




เจอแกะทำหน้ากวนตีนใส่ ก็เป็นต้องได้เวลาขี่รถต่อไป ขี่ไปเรื่อย ๆ เจออุปสรรคหลายรูปแบบ โค้งหักศอก โค้งหลอก  โค้ง V shape อีก 3 ที่  (อันนี้ เป็นโค้งขึ้นเนินชิน ตัดเป็น ตัว V )  ไอ้เราก็ขี่มาเรื่อย ๆ  ลืมตบเกียร์ ฮ่าาาา..  สนุกดี  วิวก็สวย     ส่วนตัวขี่ไม่ค่อยเร็วนัก   

อ้อ..ระหว่างทาง มีน้ำพุกลางถนนด้วยล่ะ ไอ้เราก็ขี่ขึ้นเนิน มองไม่เห็นถนน แต่เห็นน้ำมันพุ่ง    ร้องอุทานดัง ๆ ในหมวกกันน็อค "เฮ้ย มีน้ำพุด้วยเหรอ? "  ใช่จริง ๆด้วย   ท่อน้ำมันแตก กลางถนนเลยล่ะ มาจากไหนไม่ทราบ  เห็นแล้ว ได้แต่ขำ  แต่ก็อันตรายพอสมควร ถ้ามาเร็ว ๆ  โปรดใช้ความระมัดระวังนะคะ  เสียดายไม่ได้ถ่ายรุปมา เพราะกำลังเพลิดเพลินกับขี่รถมากกก   มันกำลังบิ้วอารมณ์ได้ที่อยู่แน่ะ 


ต่อมาเจอเป้าหมายที่ปิ่นตามหาจนได้  เย้ !!      มันอยู่ตรงสามแยกด่านตรวจ บ้านตะเคียนงาม  ทำถนนใหม่จริง แต่.......ยาวแค่  1.4 กิโลเมตรเอ๊ง !!!  กริ๊ดดดด   เอาภาษีประชาชนหายไปไหนหมด ??? ทำไมทำถนนใหม่สั้นแค่เนี้ย !!    ไอ้ที่ขี่มากว่า  50 กิโลเมตร จากสวนผึ้ง  ถนนหลุมพระจันทร์ทั้งน๊านนน มาราดยางแค่ตรงเนี้ย.. แหม่ !  แถมยังมีหญ้า ดงหญ้ารุงรังไปหมด    



เอาเถอะ เอาเถอะ  ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก เพราะเป็นทริปที่ขี่รถอย่างสนุกสนาน ผ่อนคลาย จากการงาน และ เหตุการณ์บ้านเมืองวุ่นว่าย ขอมาปลีกวิเวกกับธรรมชาติไรบ้าง 


ที่นี่ วิวสวยมากเลยนะ  สามารถถ่ายรูปรถ คน  (เสียดายมาคนเดียว ถ่ายตัวเองไม่ได้มุมง่ะ)  อีกอย่าง ปิ่นมาสายไปหน่อย   ดันตื่นสาย จึงถ่ายได้ไม่เยอะมาก เพราะต้องรีบกลับกรุงเทพก่อนฟ้ามืด  

ไว้มาใหม่ล่ะน่าา เนอะ 




แล้วขี่ต่อไปยังอำเภอด่านมะขามเตี้ย  แวะจอดพักหน้าโรงเรียนบ้านโป่งโก  เพื่อทานขนมไม่ให้หิวเกินไป พร้อม ๆ เติมพลังงานให้พร้อม !   โรงเรียนในแถบชนบทเนี่ย น่าเรียนมากเลยนะ ขอบอก  ปิ่นชอบมาก มันไม่วุ่นว่ายดีนะ 



ต่อมาเกิดปวดท้อง อยากเก็บดอกไม้อีกแล้ว  ไม่กล้าเข้าโรงเรียน  อายเด็กเขาน่ะ  จึงขี่ต่อไป เจอวัดแห่งหนึ่ง รีบเลี้ยวซ้ายทันที   ปล่อยทุกข์ เฮ้อ... แต่ก็นะ ไม่พ้นจากสายตาชาวบ้านนับร้อยคน แถว ๆ นั้น ทำไงได้ล่ะ  TT__TT   แต่โบสถ์สวยมากเลยนะ  วัดแห่งนี้มีชื่อว่า "วัดท่าพุราษฎร์บำรุง"    อยู่ตรงหัวโค้งหักศอก 90 องศา เลยล่ะ 



เสร็จแล้วก็ขี่ยิงยาวไปเลย  เปิด GPS ให้มันนำทางกลับบ้าน   มัวแต่โอเอ้เลย สี่โมงเย็นแล้ว   ต้องรีบบึ่งแล้วล่ะ    


ระหว่างทาง  เจองูตัวเบ้อเริ่มกำลังคลานข้ามถนน แต่ไม่พ้นจากถนนเลย  คลานกระดิ๊บ ๆ    ปิ่นหลบไม่ทัน  ได้เหยียบมันไปเรียบร้อย  มันคงร้อง "แอ๊ก !!"  เป็นแน่   ขอโทษนะ ไม่เห็นจริง ๆ    T_T


และแล้วแวะเข้าปั้ม   ที่ บ้านโป่ง จ.ราชบุรี  ขอบอกว่า ระหว่างทางเนี่ย หนาวมาก อากาศเย็น ปิ่นใส่เสื้อแจ็คเกตมาจริงแต่ไม่ได้ใส่เสื้อซับในมา  ขี่ไป ร้อง อูย..เย็น     แต่ก็อากาศดีนะ  



แวะทานขนมลงท้องอีกครั้ง  เพื่อยิงยาวกลับบ้าน ไม่หยุดล่ะ  เข้ากรุงเทพ แต่...ตัดสินใจผิดพลาดอีกแล้ว คือ ไม่ได้เลี้ยวเข้าจรัญสนิทวงศ์ หรือ ถนนเพชรเกษม  เพราะไม่คุ้นเคย  ดันทะลึ่งขี่ตรงไปยังสะพานพระปิ่นเกล้า ลืมไปว่า เขามีม๊อบ  แน่นอนว่า หลงเข้าไปเต็ม ๆ เลย    

ไปพักเบรคที่ป้อมพระสุเมรุ  ก็ยังลืมได้อีกว่า "เอ็งขี่ผ่านใจกลางเมืองไม่ได้นะ  เขามีม๊อบอยู่"    ปิ่นไม่ได้คิดอะไร ในหัวมีแต่เรื่อง "หิว  อยากกลับบ้าน  หาอะไรกินลงท้องดีกว่า "  จึงไม่ได้วางแผนเส้นทาง  ผลคือ..ฝ่าดงม๊อบ   ไปเจอแก๊สน้ำตา ที่ถนนนครสวรรค์   แสบคอมากก   TT__TT   กลับรถทันที  ข้ามไปฝั่งธน ฯ  เพื่อขี่อ้อมกลับบ้าน   




จบทริปอย่างปลอดภัย  วิ่งไปทั้งหมด    450 กิโลเมตร  น้ำมันเต็มถัง  E20  300 กว่าบาท  และเติม 91  100 บาท  วันเดียวคุ้มมาก ที่ได้อะไรมาเยอะกลับมาด้วย   และ มั่วได้ใจมากก   อิ อิ   ขอขอบคุณที่ชมรีวิวค่ะ  ไม่ได้รีวิวมานานมาก ๆ   รูปที่ถ่ายมานั้น  ถ่ายด้วย smartphone ทุกรูป  ปกติตั้งใจถ่ายมากเลยนะ แต่ เวลามีน้อย จึงถ่ายได้ไม่เยอะมากนัก  

 "It felt good! It felt like everything else just disappears. No past and no future. No problems. Just the moment"   


แถม คลิปวีดีโอเล็กน้อย   เพลง Lose Yourself  เวอร์ชั่น Gospel   ใช่ค่ะ  เป็นเพลงของ Eminem  ได้สร้างแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิต   โอกาสดี ๆ มีมาไม่บ่อย จงใช้ให้เต็มที่เถอะ  จะได้ไม่เสียดายในภายหลัง    



Enjoy your ride!