ข้อควรรู้ในการเลือกมอเตอร์ไซค์ (Big Bike) จาก นิตยสาร Popular Mechanics
เป็นเวอร์ชั่นปรับปรุงใหม่ให้มีความทันสมัยขึ้น ผู้อ่านอาจจะเคยอ่านมาก่อนแล้ว ใช่ ผู้เขียนและเป็นคนนำต้นฉบับแปลมาลงเผยแพร่ครั้งแรก เมื่อปี 2009 ในเว็บพันทิป นั่นเอง
รอบรู้เกี่ยวกับมอเตอร์ไซค์
ก่อนจะซื้อมอเตอร์ไซค์ ในฝัน มีคำถามสำคัญ ที่คุณควรถามตัวเองก่อน
จะ ว่าไปแล้ว คงไม่มีใครมีความจำเป็นต้องซื้อมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่ ทว่าทุกวันนี้ กลับมีคนจำนวนมากต้องการซื้อมัน คุณเองก็อาจเป็นหนึ่งในนั้น แต่ก่อนจะควักกระเป๋าจ่าย แล้วก้าวขาขึ้นนั่งคร่อมบนเบาะด้วยความรู้สึกเป็นอิสระและสุขใจ คุณต้องตอบคำถามสำคัญต่อไปนี้ให้ได้ก่อน
เราเป็นนักขับที่ช่ำชองหรือไม่ ?
การ ขี่มอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่เป็นเรื่องสนุกเกินบรรยายแต่ก็อาจเป็นอันตรายได้หาก พลาดพลั้ง ดังนั้นก่อนที่คุณจะตัดสินใจซื้อมอเตอร์ไซค์ ไม่ว่า ประเภทใด ให้ประเมินทักษะและความสามารถของตัวเองด้วย ถ้าคุณยังมือใหม่ ก็ต้องเข้าเรียนการขับขี่ ถ้าเคยขี่เป็น แต่ว่างเว้นไปนาน ต้องฝึกทบทวน และถ้าคุณยังไม่มีใบขับขี่ ก็ต้องสอบให้ได้มา เพื่อจะได้ขับมัน อย่างถูกกฎหมาย
**ในประเทศไทย บ้านเราโชคดี มีโรงเรียนฝึกสอนขับขี่มอเตอร์ไซค์ อย่างเป็นทางการ ได้แก่ ค่าย Honda , Yamaha , Ducati และ คลับมอเตอร์ไซค์อิสระ ต่าง ๆ ที่จัดคอร์สขึ้นมาเอง เพิ่งบูมและมีคนให้ความสนใจกับการเรียนหัดขับขี่มอเตอร์ไซค์อย่างถูกต้อง และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นับตั้งแต่ปี 2008 เป็นต้นมา

เลือกรถแบบไหนดี ?
รูปแบบการขับขี่ของคุณจะเป็นตัวกำหนดประเภทของรถที่คุณควรขับ
ในทางกลับกันประเภทของรถที่คุณขี่
มีส่วนอย่างมากในการกำหนดวิถีชีวิตและโลกแห่งมอเตอร์ไซค์ของคุณ
ดังนั้นนอกจากจะเลือกมอเตอร์ไซค์จากเครื่องยนต์กลไก
และ สมรรถนะแล้วควรคำนึงถึงสังคมที่คุณจะขับเข้าไปร่วมวงด้วย ถ้าคุณไม่คิดว่า
ตัวเองเป็นนักบิด หรือมีความบ้าบิ่นในสายเลือด แต่รู้สึกสบายใจที่ได้ดูคอนเสริต์กลางคืนเวทีของวง Eagle
ก็ควรพิจารณามอเตอร์ไซค์แบบธรรมดา (Traditional)
ส่วนที่ชื่นชอบ รถแบบสปอร์ต (Sport) มักนิยมกิจกรรมประเภทเร็วและแรงสุดขีด
ถ้าคุณต้องการเข้ากลุ่มกับพวก Hip Hop ก็อาจอยู่ในกลุ่มผู้รักรถแบบ
Sport เช่นกัน
ส่วนผู้ที่สำราญกับการเดินทางท่องเที่ยว มักเป็นพวกมักจะไม่รีบร้อนยามดื่มด่ำกับวิวข้างทาง
ถ้าคุณหลงใหลการใช้ชีวิตบนรถ ก็ควรพิจารณารถแบบ ทัวร์ริ่ง (Touring)
แต่ถ้าต้องการเพิ่มรสชาติผจญภัยลงในยานพาหนะที่คุณใช้เดินทางไปมาเป็นระยะ
ทางไกล ๆ ทุกวัน คุณน่าจะชอบรถแบบ Adventure หรือมีชื่อเรียกกันว่า "Dual Purpose" ไม่ก็ Sport Touring

แบบธรรมดา (Traditional) หรือ Nake Bike หรือ Street Bike
เรียก อีกอย่างว่า แบบมาตรฐาน
เป็นรถที่พัฒนามาจากรูปแบบที่มอเตอร์ไซค์ส่วนใหญ่เคยเป็นถังน้ำมัน
และบังโคลน มีรูปทรงเดิม แฮนด์อยู่ต่ำ และเครื่องยนต์
อยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นได้ ราคา 80,000 to 1,500,000 บาท
**
ได้แก่ Honda CB Series , Suzuki SV Series , Kawasaki Z series ,
Aprilia Mana , Aprilia Tuono Series , BMW K Series, Buell Blast
Series, Ducati Monster Series, Harley Davidson Sportster, Triumph
Speed Triple , Triumph Street Triple , Suzuki Bandit , Yamaha FZ
series , Moto Guzzi Breva Series, Suzuki B-king , Yamah XJ Series
อีกมากมาย..
แบบลาดตระเวน (Cruiser)
หนักและมีความเร็วต่ำมี
เสถียรภาพดี แรงบิดสูง จุดศูนย์ถ่วงอยู่ต่ำ เบาะมีขนาดมาตรฐาน และอยู่ต่ำ
เพื่อให้เหมาะกับรูปร่างนักบิดทุกขนาด ราคา 30,000 to 1,500,000 บาท
**
ได้แก่ Harley Davidson Softail , Honda Phantom , Yamaha Dragstar ,
Suzuki Boulevard , BMW R1200C , Honda shadow และอีกหลายรุ่น
แบบทัวร์ริ่ง (Touring)
เบาะมีขนาดใหญ่ นั่งสบาย เบาะสำหรับคนซ้อนท้ายก็ใหญ่พอ ๆ กัน
และมีพื้นที่มากมายสำหรับเก็บของที่จำเป็น สำหรับการใช้ชีวิตบนถนนหลายวัน
นอกจากนี้ ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น มีเต้าเสียบ และ
เบาะนั่งที่ปรับอุ่นได้ ราคา 700,000 to 1,500,000 บาท
**ได้แก่ Honda GOLDWING, Harley-Davidson Electra Glide , BMW K1200LT , Yamaha Royal Star Venture เป็นต้น
แบบสปอร์ต (Sport)
เบาและทรงพลัง ตัวถังมีเชื้อสายของรถแข่ง ติดดิกส์เบรก สามที่ (ด้านหน้าสอง ด้านหลังหนึ่ง) เวลาขับต้องนั่งเอนไปข้างหน้า ราคา 40,000 to 2,300,000 บาท
**
ได้แก่ Honda CBR Series , Yamaha YZF-R Series , Susuki GSX ,
Kawasaki ZX Series , Ducati Superbike Series , Triumph Daytona Series
, MV Agusta F4 Series , Aprilia RSV Series, BMW HP2 เป็นต้น
แบบดูอัล สปอร์ต (Dual Sport)
เป็นมอเตอร์ไซค์ที่ถูกออกแบบให้สามารถวิ่งบนทางเรียบ ทางขุรขระ (on - off road Bike) หรือใช้ขี่เพื่อผจญภัย หาความสนุกสนาน ใหม่ ๆ (Adventure) มีหลายรุ่นให้เลือก ตั้งแต่ รุ่น Lightweight , Middleweight และ Heavyweight จะแบ่งตามเกณฑ์น้ำหนัก กำลังเครื่องยนต์ ขนาดมิติของตัวรถ
ปัจจุบันมีรถหลายค่ายผลิตออกมาให้เลือกขี่มากมาย แต่บ้านเรา มักจะเลือกรุ่น Heavyweight มากที่สุด
A : รุ่น Lightweight
Kawasaki KLX125 ,KLX250 , DTX125 , DTX 250
Honda CRF250L , CRF250M
สามารถเปลี่ยนยางหนามเป็นยางทางเรียบได้
B : รุ่น Middleweight
KTM 690EXE
BMW F650GS
Husqvarna TR650 Strada
BMW F800GS
Triumph Tiger800
Kawasaki KLR650
Kawasaki Versys
Suzuki V-Strom 650
C : รุ่น Heavyweight ถังน้ำมันมีความจุมากกว่าเพื่อรองรับระยะทางไกล
KTM Adventure 1190
BMW R1200GS
Triumph Tiger Explorer
Yamaha Super Tenere
Ducati Multistrada
**เกร็ดเพิ่มเติม
สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเข้าสู่วงการ Big Bike นั้น ไม่เคยขับขี่รถขนาดใหญ่ มากกว่า 250 CC มาก่อน และมีเงินพร้อม ขอแนะนำ
A. Kawasaki Motorcycles
1. Kawasaki KLX 250
2. Kawasaki Ninja 250R ,300R
3. Kawasaki DTX250
B. Honda Motorcycles
1. Honda CBR250i
2. Honda CBR500
ตัวเลือกเหล่านี้ เหมาะสมกับ The Beginner Biker มาก ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ เพิ่มพูนทักษะ

ต้องจ่ายเท่าไร ?
การจะซื้อรถมอเตอร์ไซค์สักคัน เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาให้รอบคอบ
กรณีที่เป็นรถใหม่ราคาจะอยู่ระหว่าง 80,000 to 1,500,000 บาท
ทั้งขึ้นอยู่กับประเภทของรถที่คุณเลือก
ตัวแทนจำหน่ายรถจะช่วยคุณด้วยการเสนอด้านการเงิน (ไฟแนนซ์)
และหลายแห่งอาจแนะนำรถมือสองด้วย (Grey Market)
แน่ใจว่า ต้องการรถใหม่หรือ ?
สำหรับ นักบิดหลายคน รถมือสองเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
เพราะนอกจากจะซื้อหาได้ง่ายกว่ารถใหม่แล้ว ยังเหมาะสำหรับการดัดแปลงด้วย
หลังจากที่ใช้ไปสักพัก คุณอาจรู้สึกว่า รถที่ซื้อมาขาดอะไรบางอย่าง
และจะพบความจริงว่า ไม่ช้าก็เร็ว
มอเตอร์ไซค์คันแรกของคุณจะครูดกับพื้นถนน
ไม่มีเหตุผลที่มอเตอร์ไซค์จะต้องเป็นรถใหม่ราคาแพง
ให้ตัวเองมีกินมีใช้สบาย ๆ สักสองสามเดือน
แล้วคุณจะพร้อมยิ่งขึ้นสำหรับล้อคู่ใหม่
รถคันนี้ เหมาะสำหรับเราหรือ ?
เวลาที่หาซื้อรถ ให้คำนึงลักษณะรูปร่างของคุณด้วย
ถ้าเท้าทั้งสองข้างไม่สามารถวางราบบนพื้นได้ แสดงว่า
รถคันนั้นสูงไปสำหรับคุณ และถ้านี่เป็นรถคันแรก
หรือคุณไม่เคยขับอะไรที่เร็วมาก ๆ ก็อย่าแม้แต่มองรถที่มีสมรรรนะสูง ๆ
กล่าวคือ ถ้าคุณใช้มอเตอร์ไซค์เป็นพาหนะหลักในการเดินทางประจำวัน
ควรพิจารณารถแบบธรรมดา หรือ แบบมาตรฐาน ถ้าคุณเคยขับมาหลายปีแล้ว
รถสมัยก่อน กับ สมัยนี้ ไม่ได้แตกต่างกัน แต่คุณจะรู้สึกดีขึ้น
อันเป็นผลมาจากระบบสตาร์ทด้วยไฟฟ้า ระบบฉีดน้ำมัน และดิสก์เบรก
ถ้าแต่ละวัน คุณต้องเดินทางไกล ซึ่งตามปกติจะมีคนซ้อนท้ายด้วย
และคุณต้องการรถที่มีสไตล์มากหน่อย ตัวเลือกที่เหมาะสมตัวต่อไปคือรถแบบ
Cruiser ถ้าคุณมีแนวโน้มต้องนั่งอยู่บนเบาะหลายชั่วโมง หลายกิโลเมตร
โดยมีคนซ้อนท้ายด้วย คุณต้องเลือกแบบ Touring และถ้าต้องการรถแบบ
Touring ที่มีสมรรถนะมากขึ้นเล็กน้อย ก็รถแบบที่เรียกว่า Sport / Touring
ให้เลือก ถ้าต้องขับบนถนนที่สูง ๆ ต่ำๆ รถที่เหมาะที่สุดคือ รถแบบ sport
ถ้าต้องการรถธรรมดา ๆ ที่สามารถไปได้ทุกที่
มองหารถที่ใช้ประโยชน์ได้ทั้งสองอย่าง คือ
รถแบบมาตรฐานที่มีท้องรถยกสูงจากพื้นมากหน่อย และ ยางมีปุ่ม
แล้วต้องมีอะไรอีก ?
ก่อนจะเริ่มออกรถ
คุณต้องมีหมวกกันน็อค เสื้อแจ็คเกต ถุงมือ รองเท้าบูท เสื้อกันฝน และ
กางเกงที่มีการ์ดเข่า สะโพก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
อย่าตระหนี่เวลาที่ซื้อของพวกนี้
เพราะมันจะอยู่ระหว่างคุณกับพื้นถนน เลือกซื้อหมวกที่ได้มาตรฐานความปลอดภัย ด้
** ซึ่งมีค่าใช้จ่ายอุปกรณ์พวกนี้ ไม่ต่ำกว่า 15,000 บาท
หลังจากที่คุณได้เรียนขับรถมาอย่างดี และสวมชุดเรียบร้อยแล้ว
ก็เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับปัญหาที่เกิดขึ้น
แม้จะขับในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย และมีการควบคุมก็ตาม
คุณอาจไม่เคยคิดที่จะขับท่ามกลางสายฝน แต่ไม่ช้าก็เร็ว คุณจะต้องได้เจอ
ดังนั้น เช้าวันที่มีฝนตก ให้ไปที่ลานจอดรถว่าง ๆ หรือ
ถนนที่ไม่ค่อยมีรถวิ่ง เพื่อลองให้เกิดความคุ้นเคยกับสภาพถนนที่เปียก
จะได้รู้ว่า รถมีปฎิกิริยาอย่างไร เวลาที่เบรก เร่งอัตราเร็ว และ
เลี้ยวโค้งบนพื้นเปียก เพราะคุณคงไม่ต้องการเรียนรู้ทักษะเหล่านี้ในสถานการณ์จริงแน่นอน

การซื้อรถใช้แล้ว
ไม่ว่า คุณจะซื้อมอเตอร์ไซค์ใช้แล้วจากตัวแทนจำหน่าย หรือจากเจ้าของเดิมโดยตรง ให้เปรียบเทียบเลขไมล์ที่อ่านได้ กับ
สภาพรถว่า สอดคล้องกันหรือไม่ ? และขอดูประวัติการบำรุงรักษา การใช้บริการ เล่มทะเบียนรถ รวมถึงใบเสร็จรับเงิน
# มองหาสนิมและรอยขีดข่วนบนตัวรถ ถังน้ำมัน และ บังโคลน ตรวจดูที่วางเท้าว่า สึกไปอย่างไร ถ้าสึกด้านบน แสดงว่า
ผ่านการขับมายาวไกล ถ้าสึกด้านล่าง แสดงว่า ผู้ขับเอนตัวมากไปเวลาเข้าโค้ง
# รอยขาดที่เบาะ และสีที่ซีดจาง เป็นตัวฟ้องว่า รถเคยผ่านชีวิตที่สมบุกสมบัน
# ตรวจดูว่า มีการเปลี่ยนอะไหล่แทนของเก่าที่เสียหายหรือไม่ ? โดยเฉพาะที่วางเท้า กระจก แฮนด์ เบรก และ คลัตซ์
# ตรวจดูเครื่องยนต์ว่า มีร่องรอยน้ำมันไหลซึม หรือ เยิ้ม หรือรั่วออกมาหรือไม่
# โซ่ควรสะอาดและตึง โซ่ด้านล่างหย่อนได้ประมาณ หนึ่งนิ้ว เมื่อวัดตรงกึ่งกลางระหว่าง เฟืองทั้งสอง โซ่ที่ขึ้นสนิม
หรือมีคราบเขรอะ บ่งบอกว่า ขาดการดูแลเอาใจใส่
# แผ่นจานเบรก ควร เรียบ สะอาด และไม่มีสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการลากเบรก /ร้อนเกินไป ตรวจดูยางด้วย ว่า มีการใช้ผิดวิธีหรือไม่
# รถควรติดสตาร์ทง่าย และอาจปล่อยควัน เล็กน้อย เมื่อสตาร์ท ตอนเครื่องเย็น ถ้าสตาร์ทติดยาก หรือ มีควันมาก
โดยเฉพาะควันสีน้ำเงินต้องระวัง

จบแล้ว กับ สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับรถมอเตอร์ไซค์
ถ้าอยากอ่านข้อมูลเพิ่มเติม กับ Popular Mechanics ภาคภาษาอังกฤษ ได้ที่เว็บ
http://media.popularmechanics.com/documents/ridersclub/
และ ต้นฉบับของบทความในภาค ภาษาอังกฤษ ที่เว็บ
http://www.popularmechanics.com/automotive/new_cars/1751147.html
หมายเหตุ : ข้อความที่มีเครื่องหมาย * นั้น หมายถึง เราเขียนเพิ่มเติมขึ้นมาเอง